บทความ

ผิวหนังรอบดวงตาควรดูแลอย่างไรดี

by twoseadj @November,15 2010 09.38 ( IP : 202...247 ) | Tags : บทความ

ผิวหนังทั่วร่างกายมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่น ผิวหนังที่ฝ่าเท้าจะหนาและกระด้าง หนังศีรษะจะมีรากผมมากมายอยู่กันอย่างหนาแน่น ผิวหนังรอบจมูกและแก้มจะมีต่อมไขมันมาก ทำให้หน้ามัน ส่วนผิวหนังรอบดวงตามีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือ

  • ผิวรอบดวงตาไม่มีต่อมไขมัน ทำให้ผิวบริเวณนี้แห้งง่ายมาก

  • ผิวรอบดวงตาจะบางมากที่สุดบนใบหน้า ทำให้อ่อนไหวง่ายต่อสารเคมีและสิ่งแวดล้อม

  • ใต้ผิวหนังรอบดวงตาจะมีเส้นเลือดฝอยอยู่มากมาย แต่มีชั้นไขมันน้อยมาก ทำให้ผิวหนังบริเวณนี้แห้งง่ายและบวมง่าย

  • ผิวหนังรอบดวงตามักจะตึงเครียดเมื่อมีการเคลื่อนไหวของดวงตาหรือใช้สายตามากเกินไป

    ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นทำให้ผิวหนังรอบดวงตาเป็นตัวชี้บ่งถึงความชราแห่งวัยอย่างชัดเจน
    ควรดูแลผิวหนังรอบดวงตาเป็นพิเศษ

ทุกคนต้องการดูอ่อนกว่าวัย เมื่อเราต้องทายอายุของคน เรามักจะคาดเดาได้ง่ายจากผิวหนังรอบดวงตา ดังนั้นการดูแลผิวหนังรอบดวงตาจึงต้องพิเศษกว่าส่วนอื่นของร่างกายด้วยหลักดังต่อไปนี้

1.ไม่ทำอันตราย

ผิวรอบดวงตาอ่อนไหวง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทั้งหลาย เช่น การหรี่ตาและขยี้ตาบ่อยๆ โดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดริ้วรอยตีนกา บางคนสายตาไม่ปรกติ ยาวไปหรือสั้นไป ทำให้อ่านหนังสือแล้วต้องทำตาย่นในการอ่านโดยไม่รู้ตัว ควรหมั่นตรวจวัดสายตาเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยนี้

2.ปกป้องจากรังสียูวี

ผิวหนังบอบบางรอบดวงตาจะอ่อนไหวต่อรังสียูวีมาก จำเป็นต้องปกป้องทั้งผิวหนังและดวงตาจากรังสียูวี อาจจะเลือกแว่นกันแดดที่สามารถครอบคลุมผิวหนังรอบดวงตาด้วยนอกเหนือจากการทาครีมกันแดดรอบดวงตา

3.หลักเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดความระคายเคือง

ผิวหนังที่บอบบางรอบดวงตาจะง่ายและไวต่อสารเคมีทั้งหลาย ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจไม่เหมาะสม เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำ เมื่อนำมาล้างหน้าด้วย สารทำความสะอาดในผลิตภัณฑ์จะรุนแรงเกินไปสำหรับรอบดวงตา ก่อให้เกิดความระคายเคืองได้ การใช้บ่อยๆ ทำให้ผิวรอบดวงตาแห้งกร้าน และก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ครีมบำรุงผิวหน้าที่ประกอบไปด้วยเอเอชเอ (AHA) หรือ บีเอชเอ (BHA) ไม่ควรนำมาทารอบดวงตา เนื่องจากเนื้อครีมชนิดนี้จะมีความเป็นกรดค่อนข้างมากประมาณ 3.5 ซึ่งจะทำให้ระคายเคืองได้

4.การเลือกใช้เมคอัฟที่เหมาะสม

ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้าหรือเมคอัฟมักจะประกอบไปด้วยสารที่ระคายเคืองผิวหนังได้มาก จึงควรแต่งหน้าด้วยเมคอัฟที่ไม่หนาเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบดวงตา เมคอัฟประเภททนน้ำและติดทนนาน ต้องระวังให้ดี เพราะจะประกอบไปด้วยสารเคมีที่ล้างออกยากด้วยน้ำ จำเป็นต้องใช้สารเคมีที่รุนแรงเช็คออก ยิ่งทำให้ผิวรอบดวงตาระคายเคืองและอักเสบได้

5.รอยหมองคล้ำรอบดวงตา

หลายๆ คนอาจมีปัญหาของตาหมีแพนด้าบนใบหน้า หรือรอยคล้ำใต้ตา บวมเขียว ซึ่งเกิดจากอาการบวมของผิวหนังใต้ตานั่นเอง อาการบวมใต้ตาเกิดจากการที่มีของเหลวสะสมใต้ผิวหนัง อาการบวมทำให้ผิวหนังรอบดวงตาขยายและเกิดเป็นถุงใต้ตาและริ้วรอยเหี่ยวย่นในที่สุด สาเหตุหลักเกิดจากผิวหนังรอบดวงตามีเส้นเลือดฝอยมาเลี้ยงมากมาย ทำให้บวมคล้ำได้ง่าย บางครั้งอาการบวมใต้ตาอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคไต โรคตับ ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง แต่ที่พบเป็นประจำคือตาบวมหลังตื่นนอนตอนเช้า ซึ่งมักเกิดจากนอนไม่พอ นอนดึกเกินไป หรือใช้สายตามากเกินไป

6.การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวรอบดวงตา

ควรเลือกใช้ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นสูง เนื่องจากผิวหนังรอบดวงตาที่บอบบางมาก จำเป็นต้องได้รับการปกป้องสูงสุด ไนท์ครีมสำหรับบำรุงผิวตอนกลางคืนมักจะประกอบไปด้วยสารให้ความชุ่มชื้นสูงและสารหล่อลื่นผิวหนังสูง การเลือกใช้ไนท์ครีมชนิดสำหรับบำรุงรอบดวงตาสามารถช่วยปกป้องผิวหนังส่วนนี้ได้ดีทั้งในเวลากลางคืนและกลางวัน

การใช้เครื่องสำอางรอบดวงตา

-เริ่มต้นจากความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์น้อยที่สุด หรือเริ่มต้นทาให้บางที่สุดก่อน ถ้าไม่มีอาการระคายเคืองเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ แสดงว่าน่าจะใช้ต่อไปได้หรือเพิ่มปริมาณที่ต้องการทาได้

  • ก่อนที่จะทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่รอบดวงตา ควรจะเริ่มทดสอบที่บริเวณท้องแขนก่อน เมื่อไม่แพ้ จึงขยับมาทดสอบบริเวณผิวหน้า ข้างแก้ม ก่อนที่จะใช้จริงที่รอบดวงตา

  • หากมีผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรเฉพาะรอบดวงตา ควรเลือกชนิดนั้น

  • หากมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยทันที

ข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันปัญหาตาบวมหรือตาคล้ำ

  • ควรนอนหงาย หากนอนคว่ำหน้า ความดันเลือดที่หน้าจะสูงกว่าส่วนอื่น

  • ไม่ควรดื่มน้ำหรือของเหลวมากเกินไปก่อนนอน หากของเหลวในร่างกายมากเกินไป จะทำให้ตัวบวมตามส่วนต่างๆ ได้รวมทั้งผิวหนังใต้ตา

  • ควรจำกัดการกินอาหารที่เค็มจัด เพื่อลดปริมาณโซเดียมเข้าร่างกาย เกลือโซเดียมจะทำให้น้ำถูกดูดไว้ในร่างกาย ทำให้ผิวหนังบวมตามตัวได้ง่าย

  • สำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ควรจำกัดให้น้อยลงและให้น้อยที่สุดในเวลาเย็นและก่อนนอน

  • ครีมบำรุงผิวใต้ดวงตาบางประเภทจะประกอบไปด้วยสารคาเฟอีน ซึ่งจะช่วยขจัดน้ำหรือของเหลวออก ทำให้อาการบวมลดลงได้

แสดงความคิดเห็น

กรุณาป้อน Username / Password ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้กับเว็บไซท์แห่งนี้ หรือ สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซท์
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง