FAQs.

เล่นแชร์อย่างไร ไม่ให้ผิดกฎหมาย?

by twoseadj @September,19 2008 19.09 ( IP : 222...232 ) | Tags : FAQs.
photo  , 500x250 pixel , 182,033 bytes.

หากจะพูดถึงการเล่นแชร์แล้ว คงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ประชาชนทั่วไป เนื่องจากเป็นที่นิยมเล่นกันในกลุ่มบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดกันและรู้จักกันเป็นอย่างดี อาศัยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้ได้เงินจำนวนหนึ่งไปใช้จ่ายหรือใช้ในการลงทุนธุรกิจขนาดเล็ก โดยมีผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนในระบบสถาบันการเงิน
การเล่นแชร์ผิดกฎหมายหรือไม่ ? ประชาชนส่วนมากเข้าใจว่าการเล่นแชร์นั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ความจริงแล้วการเล่นแชร์ของประชาชนทั่วไปที่มิได้ดำเนินการเป็นธุรกิจนั้น ไม่ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมาย  ดังนั้น ประชาชนยังสามารถเล่นแชร์กันได้อย่างอิสระ แต่ต้องกระทำภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น โดยมีกฎหมายที่ควบคุม กำกับ ดูแลการเล่นแชร์ ได้แก่ พระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ . 2534  ซึ่งได้บัญญัติคำนิยามของการเล่นแชร์ไว้ว่า หมายถึง การที่บุคคลตั้งแต่สามคนขึ้นไปตกลงกันเป็นสมาชิกวงแชร์ โดยแต่ละคนมีภาระที่จะส่งเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดรวมเข้าเป็นทุนกองกลางเป็นงวดๆ เพื่อให้สมาชิกวงแชร์หมุนเวียนกันรับทุนกองกลางแต่ละงวดนั้นไปโดยการประมูลหรือโดยวิธีอื่นใด และให้หมายความรวมถึงการรวมทุนในลักษณะอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงด้วย

เล่นแชร์อย่างไร ? ไม่ให้ผิดกฎหมาย การเล่นแชร์อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 ได้นั้น จะต้องเป็นการเล่นแชร์ที่ขัดต่อข้อจำกัดตามกฎหมายดังต่อไปนี้
กรณีบุคคลธรรมดา หรือประชาชนทั่วไป มีข้อกำหนดห้ามมิให้เป็นนายวงแชร์ (ท้าวแชร์) หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ รวมกันมากกว่า 3 วง หรือมีจำนวนสมาชิกวงแชร์รวมกันทุกวงมากกว่า 30 คน หรือมีทุนกองกลางต่อ 1 งวดรวมกันทุกวงมากกว่า 300,000 บาท หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ โดยท้าวแชร์ได้รับประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น นอกจากสิทธิที่จะได้รับทุนกองกลางในการเข้าร่วมเล่นแชร์ในงวดหนึ่งงวดใดได้โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย  หากผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กรณีนิติบุคคล ห้ามมิให้เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ หากนิติบุคคลใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งเท่าถึงสามเท่าของทุนกองกลางแต่ละงวดของทุกวงแชร์ แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท และให้ศาลสั่งให้นิติบุคคลนั้นหยุดดำเนินการเป็นนายวงแชร์หรือการจัดให้มีการเล่นแชร์ และห้ามมิให้สัญญาว่าจะใช้เงินหรือทรัพย์สินอื่นใดแทนนายวงแชร์ หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ หรือสมาชิกวงแชร์ หากนิติบุคคลใดฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดกรณีอื่นๆ  ได้แก่ ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาชี้ชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในการเล่นแชร์ หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และห้ามมิให้ผู้ใดใช้ชื่อหรือคำแสดงชื่อในธุรกิจที่มีคำว่า “แชร์”  หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกัน หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 500 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

ถ้านายวงแชร์(ท้าวแชร์)หนีวงแชร์จะทำอย่างไร? กรณีท้าวแชร์หนีหรือโกงแชร์มี 2 กรณี ได้แก่ 1. มีเจตนาทำวงแชร์จริง แต่ด้วยสาเหตุใดหรือมีความจำเป็นใดๆ ก็ตามที่ทำให้ไม่สามารถบริหารเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการเล่นแชร์  สมาชิกวงแชร์หรือลูกแชร์สามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันในทางแพ่ง  โดยนำพยานบุคคลมาสืบได้
แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เนื่องจากตามกฎหมายแล้ว การเล่นแชร์นั้นไม่ถือเป็นการกู้ยืมที่จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
2. มีเจตนาจะไม่ทำวงแชร์มาตั้งแต่ต้นว่า แต่อ้างว่าจะทำวงแชร์ หลังจากนั้นเมื่อได้เงินแล้วก็เชิดเงินหลบหนีไปสมาชิกหรือลูกวงแชร์สามารถไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญากับท้าวแชร์ได้ เนื่องจากถือว่าเป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

เมื่อสมาชิกวงแชร์(ลูกแชร์) หนีวงแชร์จะทำอย่างไร? ถ้าลูกแชร์คนใดคนหนึ่งหรือหลายคนหนีวงแชร์ วงแชร์นั้นจะต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งท้าวแชร์จะต้องรับผิดชอบโดยการสำรองจ่ายแทนไปก่อน แล้วท้าวแชร์ก็ไปใช้สิทธิฟ้องร้องบังคับคดีกันในทางอาญาฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 หรือฟ้องร้องฐานผิดสัญญาในทางแพ่ง แล้วแต่กรณี เพื่อใช้สิทธิไล่เบี้ยเอากับลูกแชร์ที่หนีวงแชร์  ซึ่งการฟ้องคดีดังกล่าวสามารถนำพยานบุคคลมาสืบได้ ไม่จำต้องมีเอกสารหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ

ตัวอย่างแนวคำพิพากษาฎีกาที่น่าสนใจ

ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาเกี่ยวกับการเล่นแชร์อันเป็นความผิดตามกฎหมาย โดยมีแนวคำพิพากษาดังตัวอย่างต่อไปนี้ นายดำเป็นนายวงแชร์หรือท้าวแชร์จัดให้มีการเล่นแชร์ถึง 5 วง โดยมีจำนวนสมาชิกรวมกันทุกวงมากกว่า 30 คนอันเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 และต่อมานายดำยังได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกงผู้เสียหาย โดยหลอกลวงว่า มีสมาชิกวงแชร์รายอื่นประมูลเงินกองกลางโดยให้ดอกเบี้ยสูงกว่าผู้เสียหายแต่ละคนที่เข้าร่วมประมูล หรือบางงวดนายดำก็แอบอ้างอาศัยชื่อสมาชิกวงแชร์บางรายเข้าประมูลโดยเสนอดอกเบี้ยตอบแทนสูงกว่าสมาชิกที่เข้าร่วมประมูล ทั้งที่ความจริงไม่มีสมาชิกรายใดกระทำการเช่นนั้นหรือมอบหมายให้นายดำกระทำการแทน จนกระทั่งนายดำได้เงินทุนกองกลางไปเสียเอง การกระทำของนายดำจึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 อีกฐานหนึ่งด้วย
ดังนั้น แม้ประชาชนจะสามารถเล่นแชร์กันได้อย่างอิสระ แต่กฎหมายก็กำหนดให้กระทำได้ในขอบเขตที่จำกัดเท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่เราควรศึกษาทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหรือถูกหลอกลวง  และหากท่านใดมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือหากได้รับความเสียหาย สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนมาได้ที่ กลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลัง โทร. 0-2273-9021 ต่อ 2627-35 หรือศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ โทร. 1359  หรือส่งจดหมายมาได้ที่ ตู้ป.ณ.1359  ปณจ.บางรัก กรุงเทพฯ  10500 หรือทางเว็บไซต์ http://www.mof.go.th/fincrime2004/

หลักกฎหมาย พระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534

ความเป็นมา  ปัจจุบันได้มีผู้ประกอบธุรกิจเป็นนายวงแชร์กว้างขวาง ซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศรวมทั้งยังปรากฏว่ามีผู้ประกอบธุรกิจพยายามดำเนินการให้ใกล้เคียงกับธุรกิจเงินทุนซึ่งมีกฎหมาย ควบคุมอยู่แล้ว แต่ในส่วนของประชาชนยังสามารถเล่นแชร์กันได้อย่างอิสระ เจตนารมณ์  ใช้บังคับกับผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ (ท้าวแชร์) ในส่วนของผู้เล่นแชร์ (ลูกวงแชร์) ถ้ามีการผิดสัญญา การเล่นแชร์ผู้เล่นแชร์สามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้

การเล่นแชร์  (มาตรา 4) 1. บุคคลตั้งแต่ 3 คนตกลงเป็นสมาชิกวงแชร์ 2. ส่งเงิน หรือทรัพย์สินอื่นใด รวมเข้าเป็นทุนกองกลางเป็นงวดๆ 3. เพื่อให้สมาชิกวงแชร์หมุนเวียนการรับทุนกองกลางโดยการประมูลหรือโดยวิธีอื่นใด

ข้อห้าม
กรณีบุคคลธรรมดา  (มาตรา 6) 1. เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่า 3 วง 2. มีจำนวนสมาชิกวงแชร์รวมกันมากกว่า 30 คน 3. มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันทุกวงมากกว่า 300,000 บาท กรณีนิติบุคคล (มาตรา 5) ห้ามมิให้นิติบุคคลเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์

กรณีอื่นๆ
1. ห้ามโฆษณาชี้ชวนประชาชนให้มีการเล่นแชร์ (มาตรา 9) 2. ห้ามใช้ชื่อธุรกิจหรือคำแสดงชื่อในธุรกิจที่มีคำว่า แชร์ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายใกล้เคียงกัน (มาตรา 10)

บทลงโทษ
- บุคคลใดฝ่าฝืนมาตรา 6 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ - นิติบุคคลใดฝ่าฝืนมาตรา 5 ปรับตั้งแต่หนึ่งเท่าถึงสามเท่าของทุนกองกลาง แต่ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท - ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 9 ปรับไม่เกิน 50,000 บาท - ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 10 ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และ ปรับอีกไม่เกินวันละ 500 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

กลุ่มป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

แสดงความคิดเห็น

กรุณาป้อน Username / Password ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้กับเว็บไซท์แห่งนี้ หรือ สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซท์
Bold Italic Underline Left Center Right Ordered List Bulleted List Horizontal Rule Page break Hyperlink Text Color :) Quote
คำแนะนำ เว็บไซท์นี้สามารถเขียนข้อความในรูปแบบ มาร์คดาวน์ - Markdown Syntax:
  • วิธีการขึ้นบรรทัดใหม่โดยไม่เว้นช่องว่างระหว่างบรรทัด ให้เคาะเว้นวรรค (Space bar) ที่ท้ายบรรทัดจำนวนหนึ่งครั้ง
  • วิธีการขึ้นย่อหน้าใหม่ซึ่งจะมีการเว้นช่องว่างห่างจากบรรทัดด้านบนเล็กน้อย ให้เคาะ Enter จำนวน 2 ครั้ง