เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคใต้

ยาฉีดเจ้าโลก...จนเปื่อย

สาวใหญ่เหยื่อมีดหมอศัลยกรรม แฉกลางวงเสวนา มีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันอยาก “ใหญ่” ฉีดเจ้าโลก เป็นที่เปิดเผยขึ้นที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ในการเสวนาเรื่อง “จากดอกรักสู่ระบบการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหาย จากบริการทางการแพทย์” โดยผู้เข้าร่วมเสวนามี น.พ. สมศักดิ์ เจริญชัยปิยะกุล รองเลขาธิการแพทยสภา น.พ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผจก.มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีเครือข่ายประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการบริการทางการแพทย์ มาร้องเรียนจำนวนมาก

ก่อนการเสวนาจะเริ่มขึ้น นางรวิวรรณ เสตะรัตน์ อายุ 51 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการทำศัลยกรรมเสริมความงาม จนใบหน้าเสียโฉมและมีคดีฟ้องร้องกับคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง ได้นำป้ายที่มีข้อความว่า “ดิฉันร้องไปทุกที่ ทุกที่บอกต้องรอมติแพทยสภา ดิฉันรอแต่แพทย์ แต่ถูกหมอชิงฟ้องก่อน” กับป้าย “ดิฉันถูกหมอฟ้อง วันนี้มาตามหารัฐมนตรีฉีดเจ้าโลก ช่วยไปเป็นพยานให้ด้วย ไม่งั้นแย่แน่” ขึ้นชูพร้อมยืนประท้วงในงาน เพื่อให้เห็นว่าได้รับความเสียหายจริง

นอกจากนี้ นางรวิวรรณยังนำวีซีดีที่อ้างว่าเป็นแพทย์ที่ฉีดเจ้าโลกให้แก่บุคคลระดับรัฐมนตรี และระบุในวีซีดีว่า คลินิกเสริมความงามชื่อดังย่านดอนเมืองแห่งนี้เคยฉีดเจ้าโลกให้แก่รัฐมนตรี 2 คน คนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว อีกคนยังมีชีวิตอยู่และยังเป็นรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลปัจจุบันด้วย นางรวิวรรณยังอ้างอีกว่า แพทย์คนดังกล่าวเคยฉีดเจ้าโลกให้เจ้าของบ่อนพนันหลายคน รวมถึงนายตำรวจระดับผู้กำกับคนหนึ่ง ที่ขณะนี้เจ้าโลกกำลังเน่า

นางรวิวรรณยังเปิดโปงถึงการฉีดเจ้าโลก ของรัฐมนตรีกับนายตำรวจระดับผู้กำกับ กับผู้สื่อข่าวโดยกล่าวว่า อยากให้รัฐมนตรีคนดังกล่าวเปิดเผยตัว เพราะเป็นห่วงกลัวว่าเจ้าโลกของรัฐมนตรีคนนั้นจะเน่า อยากให้รีบไปรักษา เพราะเคยมีผู้กำกับการตำรวจคนหนึ่งเคยอยู่ที่ สภ.อ.แห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี เคยไปฉีดเจ้าโลกที่คลินิกดังกล่าวและเกิดเจ้าโลกเน่าเฟะ จนต้องเลาะหนังทิ้งหมด ตอนนี้เหลือแต่แกนขององคชาตสีแดงเพียงอย่างเดียว แต่ผู้กำกับคนดังกล่าวไม่กล้าฟ้องร้อง เพราะกลัวได้รับความเสื่อมเสียและอับอาย ผู้สื่อข่าวได้ซักถามนางรวิวรรณถึงรายละเอียดของรัฐมนตรีที่ฉีดเจ้าโลกว่า เป็นรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่ นางรวิวรรณกล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ เพราะจะเป็นการปรักปรำ บอกได้แต่เพียงว่า เป็นรัฐมนตรีและไปฉีดเจ้าโลกที่คลินิกแถวดอนเมือง เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ด้วยและอยู่ในกระทรวงที่จัดได้ว่ามีความสำคัญ

สาวที่ทำศัลยกรรมจนใบหน้าเสียโฉมยังกล่าวด้วยว่า เหตุที่มาร้องเรียนในงานเสวนา เนื่องเพราะอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูในกรณีของคลินิกดังกล่าว เพราะขั้นตอนที่คลินิกนี้ทำเป็นการหลอกลวง ใช้ซิลิโคนมาปั้นจนเละเหลว เหมือนการใช้ซิลิโคนเหลว ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะกรรมการอาหารและยาหรือ อย.ห้ามใช้ แต่กลับเลี่ยงว่าเป็นการใช้ซิลิโคนแท่งมาหั่นและฉีด ซึ่งเป็นการหลอกลวง ปัจจุบันคลินิกแห่งนี้ยังเปิดให้บริการอยู่ แต่แพทย์คนดังกล่าวเปลี่ยนชื่อจากชื่อเดิมเป็นชื่ออื่นแล้ว

สำหรับแผ่นวีซีดีที่นางรวิวรรณนำมาเปิดโปงนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า หน้าปกวีซีดีเขียนว่า “ฉีดเจ้าโลก” มีข้อความเป็นอักษรตัวพิมพ์ดีดว่า ถอนคำพูดหมอ นาทีที่ 01.03 เมื่อนำไปเปิดดูพบว่า เป็นภาพการฉีดเจ้าโลกของแพทย์คนหนึ่งให้ลูกค้า โดยเห็นแต่มือแพทย์และเจ้าโลก ซึ่งแพทย์ได้คุยกับลูกค้าว่า เคยฉีดให้รัฐมนตรี เขาฉีดไป 30 ซีซี เขาหมดไปประมาณ 5 แสน ใช่ 5 แสนบาท แต่เขาก็บอกว่าเคยฉีดแฟ็ต (Fat) มาแล้ว 5 ครั้ง ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ครับ มีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ ยังมีเสียงสนทนาโต้ตอบระหว่างหญิงชาย ในนาทีที่ 01.03 ของวีซีดีตรงกับที่หน้าปกเขียนไว้ด้วย หลังจากนั้นเป็นคำอธิบายประสิทธิภาพของการรักษา และการฉีดเจ้าโลก

ด้าน ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า คลินิกดังกล่าว ที่มีการร้องเรียน อย.ได้ตรวจแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่พบหลักฐานที่จะสามารถเอาผิดได้ อย.จะเอาผิดได้ เฉพาะเมื่อมีการนำซิลิโคนเหลวมาขายเป็นยา หรือเครื่องมือ แพทย์เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องของการประกอบวิชาชีพ วิธีการรักษาคนไข้ การใช้ซิลิโคนเหลวก็มีข้อยกเว้น ตาม พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและ พ.ร.บ.ยา ซึ่งจะใช้ได้ เฉพาะใช้ในการรักษาและใช้เฉพาะราย

“กรณีของนางรวิวรรณเคยมีการเรียกเข้ามาคุยกันแล้วหลายครั้ง เรื่องดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่แพทยสภา จะต้องทำให้เกิดความชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร ในเรื่องของ การประกอบวิชาชีพ ทำได้หรือไม่ อย่างไร แต่ถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คาราคาซังไม่จบเสียที” ศ.ดร.ภักดีกล่าว

สำหรับนางรวิวรรณเคยตกเป็นข่าวเมื่อครั้งออกมา ร้องเรียนว่า ถูกคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง ทำศัลยกรรมใบหน้าจนเสียโฉม โดยไปทำศัลยกรรมดึง รอยย่นใต้ตาขวาและทำตา 2 ชั้น แต่เวลานอนหลับไม่ สามารถปิดเปลือกตาได้สนิท รวมทั้งได้ทำศัลยกรรมเสริม จมูกจนจมูกอักเสบอีกด้วย

วิเคราะห์ขาว

จากเนื้อหาข่าวข้างต้น ปัญหาการทำศัลยกรรมนี้เป็นปัญหาที่มีอยู่ย่างแพร่หลายในสังคมยุคปัจจุบัน  เพียงแต่ผู้เสียหายหลายๆคนไม่กล้าที่จะออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง เพราะกลัวเสียชื่อเสียงและต้องตกเป็นข่าวในสังคม ซึ่งตามข่าวผู้เสียหายก็เป็นถึงรัฐมนตรี,ผู้กำกับการตำรวจ  จากสาเหตุนี้เองทำให้ผู้กระทำความผิดฉวยโอกาสกระทำความผิดอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อีกทั้งผู้เสียหายมักจะหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าผู้เกี่ยวข้องที่  ทำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการทางกฎหมายได้อย่างอยากลำบาก

การจะแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกๆฝ่าย  ทั้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เช่น แพทยสภา, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  หรือผู้ที่พบเห็น หรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการลักลอบเปิดคลินิกที่ผิดกฎหมาย  โดยเฉพาะผู้เสียหายเองจะต้องให้ความร่วมมือโดยการแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดเหน่านี้ ให้หมดไปจากสังคม

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้อื่นคงไม่สามารถดูแลตัวเรา ได้ดีเท่ากับการดูแลตัวของเราเอง  ตัวเราเองก็ต้องรู้จักระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคลินิกผิดกฎหมายเหล่านี้  แต่ทางที่ดีที่สุดคือ รู้จักพอใจในสิ่งที่ตนเองมี  ตนเองเป็นอยู่  อย่าทำศัลยกรรมโดยไม่จำเป็น